เรียบเรียงโดย
รศ.นพ.มานพชัย ธรรมคันโธ
ภาควิชาสูติศาสตร์-นรีเวชวิทยา
คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล
6 วิธีห่างไกลกรดไหลย้อน
- งดสูบบุหรี่
- หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายที่มีการก้มหรือโค้งตัวไปด้านหน้า
- รับประทานบ่อยโดยแบ่งเป็นมื้อเล็กๆ แทนมื้อใหญ่
- หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด กาแฟ ชา น้ำอัดลม
- หลีกเลี่ยงการนอนทันทีหลังรับประทานอาหาร ควรเว้นระยะ 3-4 ชั่วโมง
- หลีกเลี่ยงอาหารทอด อาหารมัน ช็อคโกแลต พืชตระกูลหอม เช่น หอมใหญ่ ต้นหอม
การรับประทานยาอย่างถูกต้องและครบถ้วนตามคำแนะนำของแพทย์มีความสำคัญอย่างมากต่อการรักษาโรคกรดไหลย้อนให้หาย อย่าหยุดยาเอง ต้องรับประทานจนครบตามแพทย์สั่ง เพราะอาการอาจกลับมาเป็นซ้ำได้อีกหากหยุดยาเอง
ในระยะแรกควรรับประทานยาติดต่อกันอย่างต่อเนื่อง
ถ้ามีอาการดังต่อไปนี้ควรรีบมาพบแพทย์
ถ้ามีอาการเสียงแหบ หรือเจ็บคอร่วมกับมีเลือดออก กลืนของแข็งไม่ลง ไอเป็นเลือด หายใจหอบเหนื่อยมีเสียงดัง หรือมีอาการหายใจลำบาก เหงื่อออก หน้ามืด เป็นลม มีอาการอ่อนแรงไปทั่ว เจ็บ
- ท่านอนสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์ที่มีอาการกรดไหลย้อน การหนุนหมอนให้สูงขึ้นประมาณ 6 นิ้วและนอนตะแคงซ้ายทำให้หลอดอาหารสูงกว่ากระเพาะอาหาร ซึ่งสามารถช่วยลดกรดที่ไหลย้อนเข้าไปในหลอดอาหารได้
- กรดไหลย้อน ปล่อยไว้ไม่ดีแน่ การใช้ยาเป็นวิธีการหนึ่งในการรักษาโรคกรดไหลย้อนในผู้ป่วยส่วนใหญ่อย่างได้ผล โดยใช้ร่วมกับการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม และภายใต้คำแนะนำของแพทย์และเภสัชกร
- 33% ของผู้ที่มีอาการไอเรื้อรังมีสาเหตุมาจากกรดไหลย้อน โดยที่ตรวจไม่พบความผิดปกติจากภาพเอกซเรย์ของช่องปอดและโพรงไซนัส แต่สาเหตุมาจากของเหลวหรือแก๊สในกระเพาะอาหารไหลย้อนไประคายเคืองกล่องเสียงและหลอดลมโดยตรง
กรดไหลย้อนรักษาได้
ควรพบแพทย์เพื่อวินิจฉัยตามอาการ
การรับประทานยาจะช่วยบรรเทาอาการในกรณีที่อาการกรดไหลย้อนรบกวนชีวิตประจำวัน
- ยาที่มีส่วนผสมของโซเดียม
อัลจิเนตลดกรดและสร้างชั้นเจลป้องกันการไหลย้อนของกรดในกระเพาะอาหาร
บรรเทาอาการแสบร้อนกลางอกอย่างมีประสิทธิภาพ - ตัวยาไม่เพียงออกฤทธิ์ในการลดกรดเกินในกระเพาะอาหารแต่ยังสร้างชั้นเจลกดการไหลย้อนกลับของกรดหรือน้ำย่อยในกระเพาะอาหารได้อย่างแท้จริง
- ใช้ได้กับแม่ตั้งครรภ์และให้นมบุตร
- มีทั้งชนิดเม็ดและชนิดน้ำที่กินง่าย พกพาสะดวก
- รับประทานหลังอาหารและก่อนนอน
ใช้ได้ในเด็กอายุ 12 ปีขึ้นไป
*ก่อนใช้ยาเพื่อรักษาอาการควรได้รับคำแนะนำจากแพทย์และเภสัชกร
อาการที่พบบ่อยของโรคกรดไหลย้อน
- อาการแสบร้อนบริเวณกลางหรือยอดอก หรือลิ้นปี่
- รู้สึกเปรี้ยวหรือรับรสขมในปากและลำคอ
- อาจมีอาการคลื่นไส้อาเจียน เรอเปรี้ยวบ่อย
- มีความรู้สึกแน่นในช่องคอ กลืนน้ำลายลำบาก
- เสียงแอบ ไอ หายใจไม่ออก สำลักน้ำลายหรือน้ำย่อยในเวลากลางคืนขณะหลับ
- รู้สึกเวียนศีรษะ คลื่นไส้อาเจียน
รู้หรือไม่...
คุณแม่ตั้งครรภ์มีโอกาสเกิดกรดไหลย้อนมากขึ้นตามอายุครรภ์ และพบว่าเมื่อเข้าสู่ไตรมาสสุดท้าย
คุณแม่มากกว่า 50% มีอาการกรดไหลย้อน
ซึ่งมีผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตคุณแม่ตั้งครรภ์อย่างมาก
รู้ไหม? ทำไมกรดไหลย้อนเกิดขึ้นบ่อยเมื่อคุณแม่ตั้งครรภ์
- เพราะขณะตั้งครรภ์มีการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนต่างๆ เช่น โพรเจสเทอโรน
(Progesterone) ส่งผลให้หูรูดหลอดอาหารส่วนล่าง (Lower Esophageal Sphincter – LES)
คลายตัวจึงเกิดกรดไหลย้อนได้ง่ายขึ้น - ขณะตั้งครรภ์มดลูกขยายใหญ่ขึ้นเบียดพื้นที่ของกระเพาะอาหารจึงเกิดภาวะกรดไหลย้อน
บทความ 1 มกราคม 2564