เรียบเรียงโดย
ทีมงานผู้เชี่ยวชาญด้านกรดไหลย้อน จากกาวิสคอน
อาการอาหารไม่ย่อย สามารถพบได้บ่อย ส่วนมากอาจมีอาการปวดเกิดขึ้นเฉียบพลันไม่นานภายหลังรับประทานอาหาร ซึ่งจะมีอาการแน่นท้อง อึดอัด จุกเสียดท้อง อาการอาหารไม่ย่อย จุกเสียดท้องนี้ก็อาจเป็นหนึ่งในสัญญาณเตือนของโรคกรดไหลย้อนด้วยเช่นเดียวกัน
สาเหตุและอาการอาหารไม่ย่อย
อาการอาหารไม่ย่อยหรือจุกเสียดท้องเป็นสิ่งที่หลายคนเจอ ไม่ว่าจะเป็นเป็นครั้งคราวหรือเกิดขึ้นบ่อย ๆ บางครั้งอาจรุนแรงจนรู้สึกอึดอัด แน่นท้อง หรือปวดท้องหลังกินอาหารเพียงไม่นาน โดยสาเหตุนั้นเกิดจากการที่กระเพาะหลั่งกรดมากเกินไป ทำให้ระบบย่อยอาหาร โดยเฉพาะเอนไซม์ที่อยู่ในลำไส้เล็กทำงานได้ไม่เต็มที่ จึงทำให้เกิดอาการอาหารไม่ย่อย
ส่งผลให้รู้สึกแน่นท้อง จุกเสียดท้อง
นอกจากนี้อาการอาหารไม่ย่อยยังพบบ่อยในช่วงตั้งครรภ์เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงด้านโครงสร้างร่างกายส่งผลกระทบต่อการผลิตฮอร์โมน
ท่านสามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่หน้าการตั้งครรภ์
อาการอาหารไม่ย่อย จุกเสียดท้อง
สัญญาณของอาหารไม่ย่อยมีดังนี้:
- รู้สึกแน่นท้อง หรือ ไม่สบายท้องหลังรับประทานอาหาร
- รู้สึกแสบร้อนบริเวณท้อง
- ท้องลั่นโครกคราก
- ท้องเกร็ง
- ท้องอืด ท้องเฟ้อ
- เรอเปรี้ยว
สาเหตุของอาหารไม่ย่อย จุกเสียดท้อง
อาหารไม่ย่อย จุกเสียดท้อง อาจทำให้เกิดความรู้สึกปวดแสบร้อนในกระเพาะอาหาร โดยเฉพาะในผู้ที่เยื่อบุทางเดินอาหารบอบบางเป็นพิเศษ อาหารไม่ย่อย จุกเสียดท้อง
เกิดได้จากหลายปัจจัย และปัจจัยกระตุ้นอาจต่างกันในแต่ละคน
สาเหตุหลักของอาหารไม่ย่อย จุกเสียดท้อง ประกอบด้วย:
- รับประทานอาหารมื้อใหญ่
- รับประทานเร็วเกินไป
- ของมันหรือของเผ็ด
- ความเครียดและวิตกกังวล
- ดื่มแอลกอฮอล์
- สูบบุหรี่
วิธีป้องกันอาการอาหารไม่ย่อย จุกเสียดท้อง
การป้องกันอาการอาหารไม่ย่อย จุกเสียดท้องสามารถทำได้หลายวิธี โดยการปรับพฤติกรรมการรับประทานอาหารและการดูแลสุขภาพโดยรวม ซึ่งสามารถทำได้ดังนี้:
1. ทานอาหารมื้อเล็กๆ แต่บ่อยครั้ง
การทานอาหารมื้อใหญ่ๆ ในแต่ละครั้งอาจทำให้กระเพาะอาหารทำงานหนักและทำให้เกิดอาการ
อาหารไม่ย่อยได้ง่ายขึ้น ดังนั้น ควรแบ่งมื้ออาหารเป็นมื้อเล็กๆ และทานบ่อยขึ้นแทน
เช่น ทานอาหาร 4-5 มื้อเล็กๆ ต่อวัน เพื่อช่วยลดการทำงานหนักของกระเพาะอาหาร
2. หลีกเลี่ยงอาหารที่กระตุ้นกรดในกระเพาะ
อาหารบางชนิดอาจกระตุ้นการผลิตกรดในกระเพาะอาหาร เช่น อาหารมัน อาหารเผ็ด
อาหารทอด ช็อกโกแลต เครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน เช่น กาแฟ หรือเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์
ควรหลีกเลี่ยงการทานอาหารเหล่านี้ เพื่อช่วยลดโอกาสเกิดอาการอาหารไม่ย่อย จุกเสียดท้อง
3. เคี้ยวอาหารให้ละเอียด
การเคี้ยวอาหารให้ละเอียดช่วยลดภาระในการย่อยของกระเพาะอาหารและช่วยให้ระบบย่อยอาหาร
ทำงานได้ดีขึ้น ลดโอกาสเกิดอาการอาหารไม่ย่อย เช่น จุกเสียดท้อง หรือท้องอืด
4. ไม่ทานอาหารใกล้เวลานอน
การทานอาหารก่อนนอนอาจทำให้กรดในกระเพาะอาหารไหลย้อนขึ้นสู่หลอดอาหาร
ซึ่งทำให้เกิดอาการแสบร้อนกลางอกและอาหารไม่ย่อย จุกเสียดท้องได้
ควรหลีกเลี่ยงการทานอาหารภายใน 2-3 ชั่วโมงก่อนเข้านอน
5. ลดความเครียด
ความเครียดสามารถกระตุ้นการผลิตกรดในกระเพาะอาหาร และทำให้ระบบย่อยอาหารทำงานไม่ดีได้
ดังนั้นการหาวิธีลดความเครียด เช่น การฝึกโยคะ การทำสมาธิ หรือการออกกำลังกายเป็นประจำ
สามารถช่วยลดอาการอาหารไม่ย่อย จุกเสียดท้องได้
การรักษา
อาการแน่นท้องเพราะอาหารไม่ย่อยที่เกิดจากการมีกรดในกระเพาะอาหารมากเกินไป สามารถบรรเทาได้ด้วยการรับประทานยาลดกรดและป้องกันกรดไหลย้อน แต่ยังมีความเข้าใจที่ผิด ๆ บางอย่างเกี่ยวกับยาลดกรด ตัวอย่างเช่น คนทั่ว ๆ ไปมักคิดว่ายาลดกรด กับยาธาตุน้ำขาว คือยาตัวเดียวกัน มีสรรพคุณลดกรดในกระเพาะอาหารที่เหมือน ๆ กันเพราะลักษณะเป็นน้ำสีขาวเหมือนกัน แต่ไม่เป็นความจริง เรามาดูกันว่า ยาทั้ง 2 ชนิด แตกต่างกันอย่างไรมาติดตามกันได้เลย
ยาลดกรด (Antacids) คือ
ยาที่ช่วยปรับสภาพความเป็นกรดภายในกระเพาะอาหารให้มีความเป็นกลางมากขึ้น
ส่วนมากประกอบด้วยยาที่มีคุณสมบัติเป็นด่าง ได้แก่
- อะลูมิเนียม ไฮดรอกไซด์ (Aluminium hydroxyide)
- แมกนีเซียม คาร์บอเนต (Magnesium hydroxide)
มักใช้เป็นยารักษาโรคกระเพาะอาหารอักเสบ, โรคกรดไหลย้อน
และบรรเทาอาการอาหารไม่ย่อย ท้องอืด ท้องเฟ้อ ได้
ยาธาตุน้ำขาว (Salol et Menthol Mixture) คือ ยาที่ประกอบด้วย
- ซาลอล (Salol หรือ Phenyl Salicylate) มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อในลำไส้
- น้ำมันจากผลเทียนสัตตบุษย์ (Anise oil) และ เมนทอล (Menthol) มีฤทธิ์ขับลม
ดังนั้นยาธาตุน้ำขาวจึงสามารถใช้รับประทานเพื่อทำลายเชื้อโรคในลำไส้
รักษาอาการท้องเสียจากการติดเชื้อแบบไม่รุนแรง แก้ปวดท้อง แก้ท้องเสีย ท้องอืดท้องเฟ้อ
จุกเสียด แน่นท้อง ช่วยขับลมได้
จะเห็นได้ว่า ยาธาตุน้ำขาวไม่ใช่ยาลดกรด ยาธาตุน้ำขาวไม่สามารถลดภาวะกรดเกินในกระเพาะอาหารได้
ดังนั้นเพื่อความปลอดภัย ก่อนจะกิน หรือใช้ยาอะไรหากไม่มั่นใจแนะนำให้ปรึกษาแพทย์ หรือเภสัชกรจะดีกว่า
(ที่มา : กลุ่มภารกิจด้านวิเคราะห์และประมวลข่าวสาร สำนักสารนิเทศ สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข)
ในขณะที่บางคนอาจนิยมทานยาลดกรดชนิดผงฟู่ เพื่อลดกรดและบรรเทาอาการท้องอืด
ท้องเฟ้อ เพราะหาซื้อได้ง่ายและราคาไม่แพง
แต่เนื่องจากอาการแน่นท้องเพราะอาหารไม่ย่อยจากกรดเกินอาจทำให้เกิดกรดไหลย้อนได้ด้วย
การทานยาที่ช่วยลดกรดเพียงอย่างเดียว จึงอาจไม่เพียงพอ
จึงควรรับประทานยาลดกรดและป้องกันกรดไหลย้อน ที่มีประสิทธิภาพเหนือกว่ายาลดกรดทั่วไป เพราะนอกจากจะ
ช่วยเจือจางกรด ปรับสภาพกรดภายในกระเพาะอาหารให้มีความเป็นกลางมากขึ้น ซึ่งช่วยบรรเทาอาการจุกเสียด
ท้อง และอาหารไม่ย่อยจากกรดเกินแล้ว ยังมีคุณสมบัติในการสร้างชั้นแพเจลป้องกันกรดไหลย้อน และบรรเทา
อาการแสบร้อนกลางอกจากกรดไหลย้อนได้
ดังนั้นไม่ว่าท่านจะมีอาการ จุกเสียดท้อง แน่นท้องเพราะอาหารไม่ย่อยจากกรดเกิน ก็สามารถบรรเทาอาการได้อย่างมีประสิทธิภาพ
จึงช่วยให้ท่านดำเนินกิจวัตรต่อไปโดยไร้กังวล
หากท่านจะพิจารณาเลือกซื้อยาเพื่อบรรเทาอาการแน่นท้องเพราะอาหารไม่ย่อย จุกเสียดท้องด้วยตนเอง
จำเป็นต้องอ่านฉลากและเอกสารกำกับยาให้ละเอียดก่อนทุกครั้ง
ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้จาก
https://pharm.tu.ac.th/uploads/pharm/pdf/articles/articles201812.pdf